การจัดการกลุ่มของกิจกรรมงาน กล่าวคือ ตั้งแต่การรับวัตถุดิบมาจาก Supplies แล้วเปลี่ยนวัตถุดิบนั้นให้เป็นสินค้าขั้นกลาง และสินค้าขั้นสุดท้าย จนกระทั่งจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า
สิ่งที่จะทำให้เข้าใจถึงหน้าที่ของการผลิตและวิธีการควบคุมการผลิตนั้น เราจะต้องเข้าใจในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในกระบวนการผลิตอยู่ 2 สิ่งหลักๆ คือ
--วัตถุดิบ(Materials)--สารสนเทศ(Information)
ประโยชน์ของการทำ SCM
--การเคลื่่อนไหลของวัตถุดิบและสารสนเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
--ปรับปรุงระดับของสินค้าคงเหลือ
--เพิ่มความเร็วได้มากขึ้น
--ขจัดความสิ้นเปลืองหรือความสูญเปล่าต่างๆ ในกระบวนการทางธุรกิจให้หมดไปได้
--ลดต้นทุนในกิจกรรมต่างๆ ได้
--ปรับปรุงการบริการลูกค้า
การบูรณาการในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Integration)
--การบูรณาการภายในทางธุรกิจให้เป็นแบบไร้รอยตะเข็บ ได้ความสูญเสียและมีความยืดหยุ่น ใช้นโยบายการทำงานแบบข้ามสายงาน ลดกระบวนการและขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น
--การบูรณาการกับกระบวนการภายนอก นั่นคือบูรณาการกับกระบวนการของลูกค้าที่สำคัญและผู้จัดหาวัตถุดิบที่สำคัญให้เข้ากับกระบวนหารภายในของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ และไร้รอยตะเข็บซึ่งจะส่งผลให้สารมารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว ขณะที่ต้นทุนลดต่ำลง
--การบูรณาการทางเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ เพื่อให้การแลกเปลี่ยนและประสานข้อมูลข่าวสารภายในองค์กรและระหว่างองค์กรเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
Value Chain ห่วงโซ่คุณค่า
INFORMATION SYSTEM REQUIREMENT
การนำระบบสารสนเทศไปใช้ในการจัดการด้าน Supply Chain
Supply Chain Management คือ การจัดการเชื่อมกิจกรรมต่างๆ ที่สัมพันธ์ กันระหว่างผู้ผลิต(Supplier) ผู้จัดจำหน่าย (Distributor) และลูกค้า (Customer) กลยุทธ์ทางด้าน Supply Chain นั้นได้แก่ ความพยายามที่จะผูกลูกค้า ผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่ายกับธุรกิจ เรียกว่า Lock-in Customers หรือ Lock-in Suppliers เพือให้เกิดค่าใช้จ่ายในการ เปลี่ยนนไปทำธุรกิจกับผู้อื่น (Switching Cost) มีสูงขึน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น